ทีมงานระบบ 365 Defender ของ Microsoft ได้ออกมาประกาศเตือนภัยถึงในการระวังถึง Android Malware ที่จะสมัครบริการพรีเมี่ยมแบบไม่รู้ตัว (2 ก.ค. 2565) ทีมงานระบบป้องกันภัย 365 Defender ของ Microsoft ได้รายงานถึงการแพร่กระจายของ Malware ชนิดใหม่ที่จะสามารถทำการสมัครเข้าใช้บริการแบบพิเศษ (พรีเมี่ยม) ไปแบบไม่รู้ตัวได้ โดยการโจมตีนั้นค่อนข้างมีความซับซ้อน และลึก ซึ่งจะมีขั้นตอนก่อนที่มันจะดำเนินการ
โดยเริ่มต้นนั้น แอปพลิเคชันที่อำนวยความสะดวกให้กับ Malware นี้
จะถูกเรียกว่า “toll frauds” และใช้งาน “dynamic code loading” เพื่อที่จะดำเนินการโจมตี ซึ่งแบบสั้น ๆ ก็คือ Malware จะทำการสมัครสมาชิกบริการพรีเมี่ยมโดยใช้งานข้อมูลใบเสร็จโทรศัพท์รายเดือน ทำให้ผู้ที่โดนจะถูกบังคับให้จ่ายค่าบริการที่ว่าแบบไม่เต็มใจ
Malware ตัวนี้จะทำงานโดยฉวยประโยชน์จาก WAP (wireless application protocol) ที่ถูกใช้งานโดยเครือข่ายมือถือ ทำให้เงื่อนไขในการกระตุ้นนั้นก็มีตั้งแต่ การปิดการใช้งาน Wi-Fi หรือรอหลังจากผู้ที่โดนออกจากรัศมีการเชื่อมต่อแล้ว พอเงื่อนไขการทำงานได้บรรลุแล้วนั้น ตัวมัลแวร์จะทำการสมัครสมาชิกไปยังบริการที่เชื่อมต่อในเบื้องหลัง, อ่านข้อมูล OTP (one-time password) ที่อาจจะได้รับหลังการสมัครไปแล้ว จากนั้นก็ทำการกรอกข้อมูลดังกล่าว พร้อมซ่อนการแจ้งเตือนการสมัครด้วย
ข่าวดีก็คือ Malware ของ Android ตัวนี้ ส่วนใหญ่จะพบเจอภายนอก Google Play เนื่องจากระบบของ Google ได้จำกัดการใช้งานของ dynamic code loading ของแอปพลิเคชันต่าง ๆ ในระบบ ดังนั้นแล้วก็ระวังแอปพลิเคชันภายนอก และเลี่ยงแอปที่ใช้งาน side-loading ด้วย
ดร.ชวพล จริยาวิโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเมตาเวิร์สผ่านสุนทรพจน์ในหัวข้อเทคโนโลยี 5G ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่จะทำให้เมตาเวิร์สเป็นความจริง เขาเชื่อว่าเมตาเวิร์สได้เติบโตผ่านการพัฒนาของอุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ต ซึ่งอินเทอร์เน็ตก็ผ่านวิวัฒนาการรอบด้านในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา รวมไปถึงวิธีการเชื่อมต่อ ความเร็ว ประสบการณ์สื่อมัลติมีเดียต่างๆ และอุปกรณ์ที่ใช้ในการเข้าถึง เมื่อมาถึงจุดนี้ เท่ากับว่าเราได้เข้าสู่โลกยุคใหม่แห่งเทคโนโลยี VR/AR และเมตาเวิร์ส ที่ไม่เพียงแต่โทรศัพท์มือถือเท่านั้นที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ แต่จะยังมีอีกหลายหลายอุปกรณ์ที่จะช่วยให้เราในการเชื่อมต่อกับโลกดิจิทัล ให้โลกกายภาพ และโลกดิจิทัลเข้ามาใกล้กันมากขึ้น
กรณีการนำเมตาเวิร์สไปใช้ในช่วงแรก มักจะเป็นในแง่ของความบันเทิง ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า เมตาเวิร์สในขั้นที่สอง จะเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอื่นมากขึ้น รวมทั้งธุรกิจค้าปลีก การศึกษา การแพทย์ พร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ที่จะเกิดขึ้นมา รวมทั้ง เทคโนโลยี 5G คลาวด์ AI และเทคโนโลยีอื่นๆ หลังจากปี 2573 เป็นต้นไป เทคโนโลยีเหล่านี้จะพัฒนาไปจนถึงขั้นสูง และจักรวาลดิจิทัลแบบโฮโลกราฟิกจะพร้อมสำหรับการใช้งานในหลากหลายรูปแบบ
ที่งานประชุม Huawei Analyst Summit ประจำปี พ.ศ. 2565 นายเคน หู ประธานกรรมการบริหารหมุนเวียนตามวาระของหัวเว่ย กล่าวถึง เมตาเวิร์ส เอาไว้ว่าเมตาเวิร์สเป็นเรื่องที่ปัจจุบันนี้ไม่มีใครไม่พูดถึง แต่ก็ยังเป็นคอนเซ็ปต์ที่กว้าง เมตาเวิร์สเชื่อมโยงกับอีกหลากหลายเรื่อง ประเด็นแรก เขาคิดว่าเมตาเวิร์สคือการบรรจบเข้าด้วยกันของโลกกายภาพและโลกดิจิทัล ในการจะมาบรรจบกัน โลกกายภาพจะต้องได้รับการเปลี่ยนผ่านเป็นดิจิทัล ในขณะเดียวกัน โลกดิจิทัลก็ต้องเข้ามามีตัวตนในโลกกายภาพ การมาบรรจบกันของโลกทั้งสองนี้มีนัยสำคัญ ยกตัวอย่างเช่นการทำให้โลกกายภาพกลายเป็นดิจิทัล ด้วยเทคโนโลยีอย่างโมเดลสามมิติ การจำลองสถานการณ์ แบบจำลองดิจิทัล และการผสมผสานระหว่างโลกเสมือนจริงและโลกกายภาพ เราจะนำวิธีแก้ปัญหาในโลกดิจิทัลมาใช้ในโลกกายภาพได้
กก. FCC เรียกร้องให้ Google และ Apple แบน TikTok
หนึ่งในกรรมการของ FCC ได้ออกมาเรียกร้องให้ทางบริษัท Google และ Apple ดำเนินการแบน TikTok หลังมีข่าวแพลตฟอร์มเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้งานได้ (30 มิ.ย. 2565) Brendan Carr หนึ่งในคณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสารของสหรัฐฯ (FCC) ได้ออกมาเรียกร้อง พร้อมกับยื่นหนังสือเรียกร้องไปยังบริษัท Google และ Apple ในการดำเนินการแบนแพลตฟอร์มสังคมที่กำลังได้รับความนิยมในเวลานี้ – TikTok
โดยเขาได้ทำการโพสต์เอกสารพร้อมลายเซ็นที่ส่งไปยังทั้ง 2 บริษัทบนช่องทาง Twitter ส่วนตัวของเขา พร้อมกับได้แนบคำประกอบว่า “TikTok ไม่ใช่แค่แอปพลิเคชันวิดีโอทั่วไปเท่านั้น แต่มันเป็นผ้าคลุมแกะ (sheep’s clothing – การซ้อนความประสงค์ร้ายภายใต้ฉากหน้าที่ใสซื่อ) ต่างหาก”
Brendan Carr ได้ทำการอ้างอิงบทความข่าวของ BuzzFeed News ที่ได้รายงานถึงบันทึกเสียงประชุมภายในบริษัทของ TikTok ที่ได้กว่าวว่า บริษัทแม่สัญชาติจีนของ TikTok – ByteDance นั้น สามารถที่จะเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานแพลตฟอร์มในประเทศสหรัฐอเมริกาได้
พนักงานรายหนึ่งจากแผนกความเชื่อมั่น และความปลอดภัยของ TikTok ก็ได้ออกมาเปิดเผยในระหว่างการประชุมเมื่อเดือนกันยายนปี 2021 ว่า “ทุกสิ่งนั้นสามารถถูกมองเห็นได้ในประเทศจีน” เช่นเดียวกับเสียงพูดของผู้อำนวยการที่ได้กล่าวไว้ในการประชุมว่า “Master Admin” วิศวกรที่ทำงานในประเทศจีนนั้น สามารถเข้าถึงทุกสิ่งทุกอย่างได้
ภายหลังจากการรายงานประเด็นข่าวของ BuzzFeed แล้วนั้น TikTok ก็ได้ทำการประกาศว่าบริษัทจะโยกย้ายข้อมูลผู้ใช้งานในประเทศสหรัฐอเมริกาทั้งหมด (100%) ไปยังระบบเครือข่าย Cloud – Oracle เพื่อแก้ไขปัญหาความกังวลต่อการจัดการกับข้อมูลของผู้ใช้งานในประเทศ
นอกจากรายงานข่าวดังกล่าวแล้วนั้น Carr ยังได้อ้างอิงรายงานอื่น ๆ ที่แสดงให้ถึงความกังวลในแนวทางการจัดการข้อมูลของ TikTok เช่น การค้นพบว่าแพลตฟอร์มได้ทำการเจาะระบบป้องกันของทั้ง Android และ iOS ในการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งาน และการที่ TikTok ได้ทุ่มเงินจำนวน 92 ล้านดอลลาร์
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป